จากเคยใช้บริการกันฟรี ๆ ตอนนี้แพลตฟอร์มที่เป็นโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็เริ่มขยับตัวคิดโมเดลสร้างรายได้ใหม่ให้แพลตฟอร์มอย่างการจ่ายค่าสมาชิกหรือค่าบริการรายเดือน (Subscription) เพื่อแลกกับความพิเศษ และสิทธิต่าง ๆ ที่จะได้เพิ่มเติมจากการใช้แพลตฟอร์มปกติ
.
เชื่อว่าหลายคนทั้งแบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ และครีเอเตอร์อาจจะกำลังศึกษาและเลือกใช้บริการเสียเงินเหล่านี้ เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะยอด Reach หรือยอด Engagement ลดน้อยลงไปทุกที โพสต์นี้เราเลยขอมาเปรียบเทียบความพิเศษของ 2 แพลตฟอร์มอย่าง Twitter Blue จาก Twitter และ Meta Verified จาก Facebook ว่าจะมีฟีเจอร์อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง และราคาเท่าไหร่ เพื่อให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกใช้กันครับ
ถ้าหากใครลองเปรียบเทียบข้อมูลแล้วสนใจอยากสมัครใช้งาน อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขในการสมัครตามด้านล่างนี้ด้วยนะครับ 👇🏻
🔵 Twitter Blue
- สำหรับแอคเคาท์ที่ใช้งานมาแล้วมากกว่า 30 วัน
- ไม่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ ชื่อ หรือ username ภายใน 3 วันก่อนสมัคร
- ใช้เบอร์โทรศัพท์ยืนยันตัวตน
.
🔵 Meta Verified - เพจธุรกิจยังสมัครไม่ได้ตอนนี้
- เฉพาะ Creators อายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
- ต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนที่ตรงกับชื่อโปรไฟล์เท่านั้น และไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ภายหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://about.fb.com/…/testing-meta-verified-to-help…/
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-blue
https://www.socialmediatoday.com/…/twitter-blue…/643132/