ปี 2024 แล้ว มาอัปเดตเทรนด์โซเชียลมีเดียและการทำคอนเทนต์กัน!
โพสต์นี้เราขอรวบรวมข้อมูลและเทรนด์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าจากหลากหลายเว็บไซต์ เพื่อให้ทุกคนได้เอาไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนกลยุทธ์หรือการทำคอนเทนต์ในช่องทางต่าง ๆ ซึ่งจะมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจหรือแนวโน้มอะไรที่น่าจับตามองบ้าง ไปดูกันเลย
▪️ 1. การทำ SEO บนโซเชียลแพลตฟอร์มจะสำคัญมากกว่า Hashtag เพราะเทรนด์การเสิร์ชหาข้อมูลในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะยิ่งเติบโต
▪️ 2. โซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มจะไม่ได้ใช้ฟรีอีกต่อไป เพราะจะมีการนำ Subscription Model มาใช้มากขึ้น
▪️ 3. การใช้ Subscription Model ทำให้แบรนด์อาจต้องหาวิธีการสื่อสารใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึง User แบบ Organic มากขึ้น เพราะคนอาจยอมจ่ายเพื่อเห็นโฆษณาน้อยลง
▪️ 4. X จะยังเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการนำเสนอข่าวในแบบเรียลไทม์ เพราะ Feeds ของแพลตฟอร์มจะช่วยดันเรื่องที่คนสนใจในเวลานั้นได้ดีขึ้น
▪️ 5. TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างเทรนด์วิดีโอ ที่ต่อมาจะกระจายไปทั่วแพลตฟอร์มอื่น ๆ
▪️ 6. Reels เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่อัลกอริทึมของ IG จะแนะนำให้ User เป็นอย่างมาก การทำคอนเทนต์ใน Instagram จึงควรพิจารณาทำ Reels
▪️ 7. YouTube Shorts จะเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มทาเกตใหม่ได้บน YouTube เนื่องจากปัจจุบันมี active user ถึง 2 พันล้านแอคเคาน์ต่อเดือน
▪️ 8. แม้ Metaverse จะยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่ควรติดตามว่า Meta จะมีการพัฒนาอะไรใหม่ ๆ หรือจะมีการฟีดโพสต์ที่ใช้ Avatar บน Facebook ให้แสดงผลมากขึ้นหรือไม่
▪️ 9. Messenger แม้จะเป็นโซเชียลมีเดียที่มีมานาน แต่มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นช่องทางที่ User ใช้ติดต่อกับเพจหรือแบรนด์ที่สนใจ มากกว่าการคอมเมนต์ การวางแผนทำระบบ Auto Message หรือหาเครื่องมือมาช่วยในการจัดการเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมตัว
▪️ 10. Engagement จากกลุ่มเป้าหมายจะมีการนับมากกว่าที่หน้า Feed โดยอาจมีการวัดจาก DM หรือ Inbox เนื่องจากมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น Broadcast Channel ใน IG หรือ Facebook
.
▪️ 11. ผลสำรวจจากหลายแบรนด์ระบุว่า Engagement คือตัวชี้วัด ROI ที่แบรนด์จะให้ความสนใจในแต่ละแพลตฟอร์มากขึ้น
▪️ 12. หลายแบรนด์ยังระบุว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เวิร์กที่สุดเท่านั้น จะไม่ตามไปทุกแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคอยู่ เพราะในแต่ละแพลตฟอร์มต้องจัดการหรือดูแลไม่เหมือนกัน อีกทั้งจำนวนเฉลี่ยของแพลตฟอร์มที่ User ใช้ในแต่ละเดือนก็มีมากถึง 7 แพลตฟอร์ม
▪️ 13. คอนเทนต์ที่ไม่ต้องทำภาพสวย ๆ ใช้ภาพถ่ายจริง จากสถานที่จริง หรือเหตุการณ์จริงก็ช่วยเพิ่ม Engagement ที่ดีได้ เพราะ User จะรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย
▪️ 14. User เริ่มสนใจดูอะไรที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น (Niche Social) และสื่อสารกันอยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ แต่เหนียวแน่น
▪️ 15. คอนเทนต์หรือครีเอเตอร์ในสายการเล่าเรื่องยาว ๆ หรือการเล่าเรื่องให้ความรู้ จะเป็นที่นิยมมากขึ้น
▪️ 16. คอนเทนต์ที่เล่าเรื่องราวแสนธรรมดาของผู้คน ประสบการณ์การใช้ชีวิต อาจได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะดูแตกต่างจากอื่น ๆ ที่สั้น กระชับ หรือมีแต่คอนเทนต์แบบรีวิว ขายสินค้า
▪️ 17. การวางแผนการตลาดในปีหน้าจะโฟกัสที่ “ความเป็นมนุษย์” หรือความเป็นกันเองที่ User สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
▪️ 18. เราอาจได้เห็นการแก้ปัญหาปิดกั้นการมองเห็นของโซเชียลมีเดียผ่านการทำ Callaboration ระหว่างแบรนด์ต่าง ๆ
▪️ 19. การใช้ AI เป็นเครื่องมือในการผลิตคอนเทนต์และหาไอเดียใหม่ ๆ จะเป็นที่นิยมมากขึ้น
▪️ 20. เหตุผลหลักที่ User ใช้โซเชียลมีเดียคือเืพ่อความบันเทิงและการติดตามข่าวสาร จึงทำให้ User กว่า 34% ระบุว่ารู้สึกห่างไกลกับแบรนด์ที่โปรโมตตัวเองมากไป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่เรารวบรวมมาฝากกัน หากใครคิดว่ามีเทรนด์ไหนน่าสนใจอีก ก็มาแชร์กันได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://shorturl.asia/FnEZI / https://shorturl.asia/ondbl / https://shorturl.asia/sG2z8 / https://shorturl.asia/zqVtL / https://shorturl.asia/jkMW9 / https://shorturl.asia/Z1Qwu
#CreatexHouse #SocialMedia #Trending
