“ขายไอเทมเกมได้เงินหลักแสนบน NFT” ในช่วงที่กระแสตลาดดิจิทัลมาแรงขนาดนี้ ใครที่ยังไม่รู้จัก NFT อาจจะมีงง ๆ อยู่บ้างว่ามีจริงหรือการขายสินค้าได้ราคาสูงขนาดนั้น คำตอบก็คือ มีจริง ๆ ครับ แต่ตลาด NFT ใช่ว่าอยากจะขายก็ขายได้สำเร็จลุล่วงเลย และในฐานะแบรนด์เอง เราจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดนี้ได้อย่างไร ยังมีอีกหลากหลายสิ่งที่เราอยากจะชวนคุณไปทำความรู้จักกับ NFT กันครับ
NFT เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2017 แต่ได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา จากการที่ Jack Dorcy CEO ของทวิตเตอร์ได้เอาทวิตแรกของตนเองไปประมูลขายบน NFT ปิดราคาอยู่ที่ราว ๆ 2.9 ล้านเหรียญ (ประมาณ 91 ล้านบาทไทย) นับแต่นั้นเป็นต้นมา NFT ก็กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกแห่แหนกันไปให้ความสนใจ โดย NFT ก็คือ Non-Fungible Token หมายถึง Token หรือ “เหรียญ” ที่ไม่สามารถทดแทนได้ ดังนั้นไฟล์ดิจิทัลทุกอย่างที่ขายบน NFT จะถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีจำนวนจำกัด สามารถซื้อขายถ่ายโอนกันได้ แต่ไม่สามารถทำซ้ำหรือทดแทนกันได้
อธิบายง่าย ๆ เช่น สมมติเรามีไฟล์ภาพถ่ายหน้าตรงของเรา 1 รูปบนคอมพิวเตอร์ ปกติแล้วเราก็สามารถเพิ่มจำนวนไฟล์นั้นได้ด้วยการกด Copy ก็จะได้ไฟล์เพิ่มมา หรือส่งต่อให้เพื่อนทางไลน์ เพื่อนก็จะได้อีกไฟล์เพิ่มมา จำนวนไฟล์ภาพถ่ายหน้าตรงของเรานี้ก็จะสามารถทำซ้ำได้ไม่รู้จบ ต่างกันกับถ้าเราทำไฟล์ภาพถ่ายหน้าตรงของเราให้เป็น NFT แล้วกำหนดจำนวนชิ้นไว้ว่ามีเพียงแค่ 1 ชิ้นบนโลก หากขายไป ไฟล์ภาพนั้น ๆ ก็จะมีเพียงชิ้นเดียวบนโลก ไม่สามารถทำซ้ำหรือทดแทนกันได้อีก และการซื้อขายก็จะถูกบันทึกในระบบ Blockchain ว่าเจ้าของภาพเป็นใคร
ถึงแม้ว่าไฟล์ NFT รูปถ่ายหน้าตรงของเราจะยังมีคนทำซ้ำในรูปแบบอื่น ๆ ได้ แต่บรรดาแฟนคลับหรือนักสะสมก็ยังเต็มใจที่จะทุ่มกระเป๋าอุดหนุนไฟล์ต้นฉบับ NFT อยู่ดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะบนไฟล์ NFT จะมีข้อมูลระบุอย่างชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของ ส่งต่อไปให้ใคร ดังนั้นผู้ซื้อก็จะได้ความรู้สึกที่ได้ครอบครองผลงานบางอย่างที่มีชิ้นเดียวในโลก ถึงแม้ว่าจะมีไฟล์ Copy อยู่เกลื่อนทั่วไป แต่ก็ไม่มีชิ้นไหนได้รับการสลักชื่อความเป็นเจ้าของเหมือน NFT นั่นเอง
และด้วยความที่การแปลงผลงานเพื่อจำหน่ายในรูปแบบ NFT นั้นไม่ยุ่งยาก และยังสามารถสร้างมูลค่าได้สูงจึงทำให้ตลาด NFT เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยข้อมูลจากไทยรัฐระบุว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ตลาด NFT มียอดขายเพียงราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเท่านั้น แต่เดือนที่แล้วกลับพุ่งไปแตะ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลารวดเร็ว ดังนั้นคำถามที่น่าสนใจคือ แล้วแบรนด์ต่าง ๆ จะมีโอกาสใช้ NFT เป็นช่องทางการขายสินค้ารูปแบบใหม่ได้ไหม มีบทความที่น่าสนใจจาก Forbes ชื่อว่า “Why And How Digital Marketing Agencies Should Prepare For NFTs” ที่ระบุว่ามีหลากหลายแบรนด์ใหญ่ ๆ ระดับโลกที่ตอนนี้หันมาสนใจทำแคมเปญเกี่ยวกับ NFT แล้วเช่นกัน
โดยประโยชน์ของ NFT ที่มีต่อแบรนด์คือ มันช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นและการมีส่วนร่วมในแบรนด์ได้ และสิ่งที่ขายในรูปแบบ NFT ยังสามารถขายต่อได้ด้วยในอนาคต แบรนด์อาจจะขายบริการบางอย่างโดยใช้ NFT เช่น สกินแคร์แบรนด์หนึ่งอาจจะขายสิทธิ์ exclusive events ทุกครั้งที่มีคอลเลคชั่นใหม่จะได้ชมก่อนใคร NFT แฟน ๆ ที่ชอบแบรนด์นี้ก็อาจจะซื้อเก็บไว้เพื่อเก็งราคาขายต่อด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้น คล้ายกับบัตรสมาชิก แต่เป็นบัตรที่มีหนึ่งเดียวในโลก เก็บด้วยระบบ Blockchain ออนไลน์ ทำซ้ำไม่ได้ และยิ่งนานมูลค่ายิ่งเพิ่มขึ้น
Neil Patel ผู้ประกอบการและนักวิเคราะห์การตลาดที่มีชื่อเสียง เจ้าของบล็อกให้ความรู้เรื่องการตลาด NeilPatel.com ได้วิเคราะห์ไว้ว่าต่อไป NFT น่าจะส่งผลต่อการทำการตลาดของแบรนด์มากทีเดียว โดยสิ่งที่แบรนด์สามารถทำได้ผ่าน NFT เช่นใช้ NFT สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์มากขึ้น กระตุ้นการมีส่วนร่วม และความสนใจที่มีต่อแบรนด์ของลูกค้า
ตัวอย่างที่น่าสนใจของแบรนด์ที่จับเอา NFT มาเล่นในแผนการตลาด เช่น Taco Bell ที่กำลังทำแคมเปญระดมทุนการศึกษา Live Más Scholarship ก็ลุกขึ้นมาแปลงไฟล์ GIFs แล้วลงขายใน NFT ปรากฎว่าภายใน 30 นาที ไฟล์ทั้ง 25 ชิ้นมีผู้จับจองหมดเกลี้ยง ทั้ง ๆ ที่เริ่มประมูลจากราคาเพียงแค่ 1 ดอลลาร์ แต่กลับปิดตลาดไปได้สูงกว่านั้นมาก โดยมีชิ้นหนึ่งทำราคาสูงถึง 3,646 ดอลลาร์ (ประมาณ 119,406 บาท) เลยทีเดียว Taco Bell จึงเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัว คือได้ทั้งการสร้างกระแสให้เกิด brand awareness แล้วยังได้เงินทุนไปสนับสนุนแคมเปญอีกด้วย
ดังนั้น NFT สำหรับแบรนด์แล้วถึงแม้อาจจะยังดูใหม่และยังไม่ค่อยมีอะไรให้แบรนด์เล่นมากนัก แต่ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจและอาจจะกลายมาเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการทำการตลาดในอนาคต เช่นเดียวกับครั้งแรก ๆ ที่หลายโซเชียลมีเดียพึ่งเปิดตัวใหม่ อาจจะดูไม่สำคัญในตอนนั้น แต่กลายมาเป็นสิ่งที่เราแทบขาดไม่ได้ในการทำการตลาดตอนนี้ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้อาจจะมีแบรนด์ไหนนึกสนุกลุกขึ้นมาใช้ NFT สร้างกลยุทธ์ทางการตลาด สร้างแคมเปญโฆษณาที่น่าจดจำก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://thairath.co.th/news/foreign/2055212
https://medium.com/ipg-media-lab/the-rise-of-nfts-and-what-it-means-for-marketers-628efc68c90
https://neilpatel.com/blog/non-fungible-tokens/
#Createxhouse #Createx #NFT