การตลาดสำหรับคนยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z มีดีแค่สินค้าอย่างเดียวอาจจะไม่ดึงดูดใจอีกต่อไป เพราะคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะสนใจแบรนด์ที่มีเป้าหมายชัดเจน มีส่วนร่วมกับสังคม และมีอุดมการณ์ที่เข้ากันได้กับพวกเขา
โดยหนึ่งในกระแสที่กำลังมาตอนนี้ คือ “Sustainability” หรือ “ความยั่งยืน” ฉะนั้นแบรนด์ไหนที่กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปอยู่ในความสนใจของเหล่าลูกค้า Gen Z ได้ไม่ยาก
♻️ Sustainability Marketing คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจ?
Sustainability Marketing หมายถึง แนวการตลาดและการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือแม้กระทั่งการจัดแคมเปญการตลาดต่าง ๆ
และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ที่กลุ่มลูกค้าวัย Gen Z กำลังหันมาสนใจ Sustainability Marketing มากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าคนรุ่นใหม่มีความตระหนักรู้ถึงและกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมากกว่าคนรุ่นก่อน ๆ
ดังนั้นถ้าเราเข้าใจและทำ Sustainability Marketing ได้จริง นอกจากจะช่วยโลกแล้ว ยังช่วยให้แบรนด์ของเรามีความน่าสนใจในสายตาของลูกค้ากลุ่มนี้ยิ่งกว่าเดิม
??♀️ ทำไมแบรนด์ควรโฟกัสที่ Gen Z ?นั่นก็เป็นเพราะว่ากลุ่ม Gen Z คือคนรุ่นที่กำลังเติบโตและจะกลายมาเป็นฐานลูกค้าสำคัญของคุณในเวลาอันใกล้ และคนกลุ่มนี้ยังมีความพิเศษคือพวกเขามีความเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” อยู่ในตัวสูงมาก
เช่น หาก Gen Z คิดว่าแบรนด์คุณใช่ ควรได้ไปต่อ พวกเขาก็จะไม่รีรอที่จะช่วยโปรโมตกันทันที
ในทางกลับกัน ถ้าแบรนด์คุณ “บ้ง” (หมายถึง ทำไม่ดี ไม่ได้เรื่อง ไม่เป็นไปตามที่คิด) ก็รับรองว่าเตรียมรับมือกับการแบนจากคนกลุ่มนี้ได้เลย
(อยากรู้จักลูกค้า Gen Z ให้มากขึ้น แนะนำอ่านบทความเรื่องนี้ มีเขียนไว้ให้แล้วครับ )
Gen Z ยอมจ่ายแพงกว่า ถ้าแบรนด์นั้นมีความ Sustainabilityอีกเหตุผลที่แบรนด์ควรโฟกัส Gen Z ก็เพราะว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะยอมจ่ายแพงขึ้นจริง ๆ
ซึ่งตรงกับผลสำรวจของ First Insight แพลตฟอร์มด้านการจัดประสบการณ์ผู้บริโภค ได้ระบุว่า กว่า 73% ของคน Gen Z ที่กรอกแบบสอบถาม ‘ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน (Sustainabl Product) มากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ’
ยามที่พวกเขาเลือกซื้อสินค้า “ราคา” ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจ แต่พวกเขาพิจารณาเรื่องของความยั่งยืนของสินค้านั้น ๆ ร่วมด้วย เช่น รีไซเคิลได้ไหม? ทดลองกับสัตว์หรือเปล่า? แบรนด์นี้ช่วยเหลือสังคมอย่างไร?
ดังนั้นถ้าสินค้าของเราตอบสนองด้านความยั่งยืนได้ แม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกนิดก็ยอมครับ
♻️ แล้วแบรนด์จะขยับเข้าไปสู่ Sustainability อย่างไรได้บ้าง?เราสามารถเริ่มจากการให้ความสำคัญกับการตลาดที่สร้างผลกำไรไปพร้อมกับการห่วงใยโลกให้มากขึ้นอีกนิด โดยมองไปที่มิติอื่น ๆ เช่น สังคม สิ่งแวดล้อม กว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
หรืออาจจะทำแคมเปญเล็ก ๆ ที่สัมผัสชุมชนมากขึ้น เช่น แบรนด์กาแฟที่คัดเลือกวัตถุดิบจากชุมชนแท้ ๆ หรือบางแบรนด์ที่นำเงินที่ได้จากการขายสินค้าในทุก ๆ ชิ้น ไปพัฒนาประโยชน์ให้สังคมต่อไป หรือถ้ายังไม่รู้จะตั้งต้นยังไง ลองดูวิธีนี้ได้ครับ
?? 1. มองให้กว้างกว่ากำไร : นอกจากกำไรแล้ว แบรนด์ของเราจะสามารถปรับให้ช่วยเหลือสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมได้หรือไม่? ลองเริ่มจากแคมเปญบางอย่างที่ให้ลูกค้าได้เห็นว่าคุณกำลังต้องการช่วยเหลือสังคมจริง ๆ
?? 2. ค่อยเป็นค่อยไป : ค่อย ๆ ให้ข้อมูลว่าเพราะอะไรเราถึงสนใจเรื่องความยั่งยืน เพื่อปูพื้นฐานให้ลูกค้าและเพื่อให้ดำเนินการง่ายขึ้น
?? 3. จริงใจ : อย่าทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราใช้ความยั่งยืนเพื่อการขาย แต่ทำให้รู้ว่าเราสนใจเรื่องของความยั่งยืนจริง ๆ และสิ่งนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
♻️ สรุปแล้ว Sustainability Marketing จะดีกับแบรนด์เราอย่างไร?แม้ว่า Sustainability Marketing ไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่มันก็ส่งผลดีกับโลก สิ่งแวดล้อม และสังคมมากขึ้น และเมื่อเราทำดี มีหรือลูกค้าจะไม่ให้ความสนใจและสนับสนุน โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยรุ่น Gen Z ที่กำลังมีอิทธิพลต่อตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะกลายมาเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่สนับสนุนเราไปยาว ๆ เพราะเราให้ความสนใจในสิ่งที่เขาให้ความสำคัญนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://blog.hubspot.com/marketing/sustainable-marketing
https://neoseven.co.uk/…/why-is-sustainable-marketing…/
https://www.cnbc.com/…/the-environment-is-gen-zs-no-1…
https://www.apple.com/th/environment/
https://positioningmag.com/1355760
#Createx #CreatexHouse #SustainabilityMarketing #การตลาดแบบยั่งยืน #ความยั่งยืน
