Skip to content
image

“Social Proof” ใช้เสียงสังคม ชวนให้ลูกค้าซื้อของ

“ตัวนี้แหละดี เห็นในเน็ตเค้าว่ากันนะ” 

“หารีวิวแป๊บค่อยกดสั่ง”

“ร้านนี้ได้ดาวเยอะมากเลย สั่งร้านนี้ไหม”

“เอาอันนี้เพิ่มด้วย เห็นโฆษณาเต็มทวิตเตอร์เลย น่าจะดีนะ”

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การตัดสินใจซื้อของไม่ได้มาจากเราคนเดียวเสมอไป แต่ได้อิทธิพลมาจากเสียงของคนอื่น ๆ ที่เข้ามามีอิทธิพลและเป็นแรงหนุนให้เราตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการบางอย่าง ลองนึกดูสิครับว่า เวลาที่คุณจะซื้อของแต่ละที จู่ ๆ ก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปหยิบลงตะกร้า หรือที่จริงแล้วคุณเลือกของชิ้นนั้นมา เพราะ “เขาบอกว่าดี”

ในทางการตลาดมีแนวคิดที่รองรับพฤติกรรมนี้อยู่นะครับ ชื่อว่า “Social Proof” ซึ่งเป็นเรื่องของจิตวิทยาที่ทำให้เราเชื่อถือบางสิ่งจากอิทธิพลของคนอื่น บางแหล่งก็เชื่อว่าเป็นเพราะมนุษย์นั้นมีสัญชาตญาณการอยู่รอดในสังคม ดังนั้นจึงต้องทำอะไรตามคนหมู่มากเพื่อความปลอดภัยในการอยู่รอดของตนเอง เชื่อคนหมู่มากไว้ ปลอดภัยกว่า

ถ้าให้ยกตัวอย่างชัด ๆ เวลากดสั่งของออนไลน์ ของเหมือนกัน ราคาเท่ากัน แต่ดาวที่ร้านได้กับคอมเมนต์แนะนำร้านมีจำนวนไม่เท่ากัน เราจะเลือกร้านไหน หรือถ้ามีหลายคนบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้สนุกมาก ๆ บนทวิตเตอร์ จะหันไปทางไหนก็เจอโฆษณาเต็มไปหมด เชื่อว่าเราก็คงอยากจะกดเข้าไปลองดูสักตอนสองตอนเหมือนกันใช่ไหมครับ

ซึ่งวิธีการทำ Social Proof นี้ทำได้หลายแบบมาก ตัวอย่างเช่น 

1) Expert Referrals ใช้การอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญ เช่น ยาสีฟันที่ทันตแพทย์เลือกใช้, ผู้เชี่ยวชาญ 9 ใน 10 แนะนำ ซึ่งมักจะใช้กับบริการที่ต้องการเน้นความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

2) User Rating, User Review การให้คะแนนและรีวิว เช่น คะแนน รีวิว ดาว ที่อยู่ใต้ภาพสินค้าบนหน้าเว็บไซต์การสั่งซื้อออนไลน์ ซึ่งจะช่วยทำให้คนที่เห็นตัดสินใจได้ดีขึ้น

3) Certification การรับรอง เช่น ใบประกาศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ชิ้นนี้มีอ.ย. ร้านนี้ได้มิชลินสตาร์ เป็นต้น

4) Word-of-Mouth การบอกต่อจากคนรอบข้าง เช่น ซื้อของเพราะเพื่อนบอกว่าใช้แล้วดี ซึ่งแบบการบอกต่อปากต่อปากนี้จะมีความหนักแน่นและน่าเชื่อถือมากเป็นพิเศษด้วย หรืออย่างการจับมือกับอินฟลูเอนเซอร์และคนดังต่าง ๆ ให้แนะนำสินค้าหรือบริการบางอย่าง ก็จะช่วยขยายไปในวงกว้างและมีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เกิด “Social Influence” หรือ อิทธิพลของสังคมได้ด้วยครับ

สรุปแล้วการทำ Social Proof ก็ยืนอยู่บนหลักพื้นฐานง่าย ๆ นั่นก็คือการทำให้เขารู้สึกว่าสังคมส่วนใหญ่ทำแบบนี้ เชื่อแบบนี้ แนะนำตัวนี้ จนเกิดความรู้สึกว่า “เห็นเค้าว่าดี อย่างนี้ต้องซื้อตาม” นั่นเองครับ

ชาว Ads Optimizers รู้ยัง? Meta Exclude Target ใช้ไม่ได้แล้วนะ
อัปเดตตำแหน่งโฆษณา LINE Ads 2024
Meta ประกาศลบ Filter / AR Effect จากครีเอเตอร์ทั้งหมดในปีหน้า