Skip to content
image

Fandom Marketing รวมพลังแฟนคลับสู่พลังขับเคลื่อนแบรนด์

ช่วงปีสองปีมานี้ เราจะเห็นกันบ่อยมากที่แบรนด์ต่าง ๆ มักจะร่วมงานกับพรีเซนเตอร์ หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่มีแฟนด้อมพร้อมซัพพอร์ตอย่างเหนียวแน่น เช่น แบรนด์ฝั่งสกินแคร์ แบรนด์แฟชัน หรือแม้แต่แบรนด์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม

🥰 Fandom คืออะไร?

คำนี้เกิดมาจากการเอาคำว่า “Fan” มารวมกับคำว่า “Kingdom” ทำให้เกิดความหมายใหม่ที่หมายถึง อาณาจักรของผู้ที่ชื่นชอบ หลงใหลหรือรักในสิ่งเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการบันเทิงที่จะมีแค่แฟนด้อมของศิลปินเท่านั้น แต่ยังมีแฟนด้อมของวงการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วงการกีฬา วงการ E-Sports วงการการเมือง หรือแม้แต่การเป็นแฟนด้อมของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เช่น สาวก Apple

หากใครกำลังลังเลว่าจะเดินหน้าต่อกับกลยุทธ์การทำตลาดแบบนี้อยู่ โพสต์นี้เราก็ขอชวนมาดูว่าการทำการตลาดกับกลุ่มแฟนด้อม หรือที่เรียกว่า Fandom Marketing นั้น มีดีอย่างไร และทำไมพลังความรักของแฟนด้อมเหล่านี้ถึงเป็นพลังขับเคลื่อนแบรนด์ได้กันครับ

🤟🏻 1. Awareness พุ่ง เพราะแฟนด้อมมุ่งช่วยโปรโมตให้คนที่รัก

การช่วยกระจายผลงานหรือบอกต่อกิจกรรมต่าง ๆ ของคนที่รักอยู่เสมอ คือหนึ่งในบทบาทสำคัญของแฟนด้อมที่ทำให้เราเห็นแฮชแท็กแคมเปญของแบรนด์ต่าง ๆ ติดเทรนด์กันมานักต่อนักครับ เนื่องจากเป้าหมายของแฟนคลับที่มีผลสำรวจออกมาพบว่ากว่า 46% อยากจะช่วยสนับสนุนคนที่ชื่นชอบให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงนี้เองทำให้แบรนด์ได้ประโยชน์จากการแชร์และการบอกต่อ ๆ กันไปจากกลุ่มแฟนด้อม ซึ่งจะถือว่าเป็นการได้ปลดล็อกจากอัลกอริทึมกันชั่วขณะก็ได้ครับ

🤟🏻 2. โปรดักส์หมดแผง เพราะแฟนด้อมอยากซัพพอร์ตคนที่รัก

ถ้านึกไม่ออก ให้ลองนึกถึง 4 สาววง BLACKPINK ที่ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไร หยิบจับสินค้าตัวไหนมาร่วมเฟรม สินค้าเหล่านั้นก็จะทยอยหมดในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์อยากให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ตัวเองบ้าง โดยขอบอกว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเหมาหมดแผงแบบนี้ก็ไม่ซับซ้อนครับ นั่นเป็นเพราะเหล่าแฟนด้อมต้องการช่วยซับพอร์ตศิลปิน อยากทำให้แบรนด์เห็นว่าการจ้างคนนี้ มีผลดีกับแบรนด์ และอยากให้แบรนด์ร่วมงานกับคนที่พวกเขาชอบไปเรื่อย ๆ

🤟🏻 3. แบรนด์ได้โอกาสเพิ่มฐานแฟนของแบรนด์เองในอนาคต

การร่วมงานกับศิลปินคนโปรดหรือคนที่พวกเขาชื่นชอบ เป็นเหมือนการเปิดประตูสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพราะมีผลสำรวจระบุว่า กลุ่มแฟนด้อมจะสนใจในแบรนด์มากขึ้น 44% และอีก 52% สนใจอยากซื้อแบรนด์มาลองใช้ด้วย หากมีการร่วมงานกับคนที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่แบรนด์จะงัดทุกกลยุทธ์มาสื่อสารและทำให้พวกเขากลายมาเป็นแฟนด้อมของแบรนด์ในอนาคตด้วย

สุดท้าย ทุกข้อดีที่เราพูดถึง สิ่งที่จะช่วยให้ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้นั่นก็คือการวางกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์และตอบความต้องการของแฟนด้อมแต่ละด้อมให้ได้มากที่สุด โดยแบรนด์ต้องศึกษาหาอินไซต์จากคอมมูนิตี้ของแฟนด้อมให้มากพอ เพื่อนำเอามาต่อยอดในการสื่อสาร เอามาสร้างแคมเปญหรือจัดกิจกรรมที่ดีต่อใจของพวกเขาให้ได้มากที่สุด เพราะหากแฟนด้อมรู้สึกได้ถึงความไม่จริงใจ รู้สึกว่าแบรนด์เพียงเอาศิลปินมาผูกมัด ไม่ให้เกียรติ หรือไม่ได้มีความพิเศษอะไร จากการพร้อมซัพพอร์ตก็อาจจะเปลี่ยนเป็นพร้อมแบนได้ทุกเมื่อครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.brandbuffet.in.th/2022/01/the-wall-2021-fandom-marketing/
https://adaddictth.com/works/Fandom-Marketing
https://www.forbes.com/sites/forbescommunicationscouncil/2023/03/22/how-fandom-can-support-your-global-marketing-strategy

#CreatexHouse #FandomMarketing

ชาว Ads Optimizers รู้ยัง? Meta Exclude Target ใช้ไม่ได้แล้วนะ
อัปเดตตำแหน่งโฆษณา LINE Ads 2024
Meta ประกาศลบ Filter / AR Effect จากครีเอเตอร์ทั้งหมดในปีหน้า