Skip to content
image

Emotional Marketing ปลุกอารมณ์ กระตุ้นการซื้อ

อย่าอินเกิน! คือคำพูดไม่เกินจริง หลังจากดูโฆษณาหรืออ่านคอนเทนต์จบ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านี่คือการทำการตลาด แต่ก็อดอินไม่ได้ทุกที เพราะสิ่งนี้คือพลังของ “Emotional Marketing” วันนี้เรามาเจาะลึกไปพร้อมกันว่าจะใช้อิทธิพลจากความรู้สึกมาช่วยเราทำการตลาดอย่างไรได้บ้าง

ทำความรู้จัก Emotional Marketing คืออะไร?
คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ “อารมณ์และความรู้สึก” เพื่อสร้างความดึงดูดและโน้มน้าวให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ด้วยการสร้างอารมณ์และความรู้สึกร่วมที่ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมโยงไปกับเรื่องราวของตัวเอง ผ่านเรื่องราวที่แบรนด์นำเสนอในโฆษณาหรือคอนเทนต์นั้น ๆ

อารมณ์ไหนที่ช่วยดึงดูดใจและมีผลต่อการซื้อของผู้บริโภค
โดยธรรมชาติอารมณ์ของคนเรามีหลายมิติ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เข้ามากระตุ้นให้เกิดความรู้สึกในช่วงเวลานั้น ๆ ส่วนอารมณ์ที่เอามาใช้ทำการตลาดบ่อย ๆ ได้แก่ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ และความตื่นเต้น ยกตัวอย่างเช่น

😊 ความสุขทำให้คนแชร์
เป็นอารมณ์และความรู้สึกที่ทุกต้องการให้เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็ยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เมื่อรู้สึกดีแล้วจึงทำให้อยากแชร์ออกไปบอกต่อในวงกว้าง นอกจากจะให้ความสุขกับผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษ์ให้กับแบรนด์ในแง่บวกได้อีกด้วย เช่น บริการขนส่ง อสังหาริมทรัพย์

😢 ความเศร้าทำให้คนคลิก
อารมณ์เศร้าทำให้เข้าถึงจิตใจ แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้คนร้องไห้ แต่เป้าหมายสำคัญคือทำให้ฉุกคิดบางอย่างในแง่มุมที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง เช่น ประกันชีวิต

😡 ความโกรธทำให้ไวรัล
แม้จะเป็นอารมณ์ด้านลบ แต่ความโกรธก็ช่วยกระตุ้นให้ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ต่อปัญหาต่าง ๆ รอบตัว จึงมักนิยมใช้ในโครงการรณรงค์ เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเมือง

😱 ความกลัวทำให้คนลดละเลิก
หนึ่งในอารมณ์ด้านลบและมักหลอกหลอนคนได้มากที่สุด ความรู้สึกกลัวจึงถูกนำมาใช้ในโฆษณาบ่อย ๆ สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างความตระหนักต่อสิ่งต่าง ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกกแบรนด์เสมอไป เช่น เลิกบุหรี่ ยาเสพติด เมาแล้วขับ

หยิบอารมณ์และความรู้สึกที่ต้องการต่อยอดได้หลายวิธี

เมื่อเลือกอารมณ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ได้แล้ว สามารถนำไปต่อยอดได้ด้วยการเลือกใช้สื่อที่มีประสิทธิภาพ เพราะสื่อแต่ละประเภทมีจุดอ่อน จุดแข็งที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้ตรงกลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, youtube, Tiktok ซึ่งทำได้หลายวิธีตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้เรื่องราวในการเล่าเรื่อง การใช้ภาพประกอบ วิดีโอประกอบ และการใช้เสียงเพลง เพื่อให้แบรนด์น่าสนใจ น่าจดจำและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด ส่งผลให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

หลายคนคงเลือกซื้อสินค้าด้วยเหตุผล แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจในที่สุด กลับกลายเป็น “อารมณ์” เพียงเลือกใช้อารมณ์ให้เหมาะสมกับแบรนด์และนำเสนอออกมาให้ผู้บริโภครู้สึกถึงหรือเข้าใจได้ ถือว่าเป็นอีกก้าวที่พาแบรนด์มาถูกทางแล้วครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://inkbotdesign.com/emotional-marketing-strategies/
https://missiontothemoon.co/marketing-emotional-marketing/
https://thinkmarketingmagazine.com/emotional-marketing-how-to-connect-with-your-audience-on-a-deep-level/

#CreatexHouse #EmotionalMarketing

ชาว Ads Optimizers รู้ยัง? Meta Exclude Target ใช้ไม่ได้แล้วนะ
อัปเดตตำแหน่งโฆษณา LINE Ads 2024
Meta ประกาศลบ Filter / AR Effect จากครีเอเตอร์ทั้งหมดในปีหน้า