กลายเป็นเรื่องราวไวรัลที่น่าสนใจ เมื่อ #ด้อมน้องเนย #ButterBear 🧸🤍 ติดเทรนด์ทุกแพล็ตฟอร์ม โดยเฉพาะฟีดบน TikTok, X (Twitter) และ Instagram ที่มีภาพถ่าย วิดีโอ แม้กระทั่งแฟนอาร์ต (ภาพวาดที่แฟนคลับทำให้) ปรากฏขึ้นอย่างไม่พัก!
.
อ้างอิงข้อมูลจาก Wisesight แพล็ตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูล Insight ทางการตลาด พบว่าคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับ #ButterBearCafe ทำยอด Engagements มากกว่า 3 ล้านครั้ง รวมทุกโซเชียลมีเดีย (X, TikTok, Instagram) ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเศษเท่านั้น กระแสนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และในอดีตมีมาสคอตตัวไหนเป็นที่จดจำของคนไทยบ้าง ตามไปดูกัน
▪️กระแสแฟนด้อมน้องเนย เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปไม่นาน ราวเดือนมกราคม บน Instagram Reels มีคลิปน้องหมีเต้นรวมกับมาสคอตแบรนด์อื่น ๆ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้า Emquartier ซึ่งคลิปนั้นมียอดคนดูราว 15 ล้าน และแชร์ไปกว่า 260,000 ครั้ง ไม่รวมกับในช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยลีลาการเต้นที่สงวนท่าที ส่ายเอวนิด ๆ จนช่องคอมเมนต์ถล่มทลาย ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ยัยน้องน่ารักน่าเอ็นดูมาก’ แม้แต่แฟนคลับที่มีฐานอยู่ต่างประเทศอย่างจีนและเกาหลีเอง ก็บินตรงมาต่อคิวเพื่อพบปะน้องเนยถึงสาขาที่ไทย นี่จึงเป็นเคสตัวอย่างที่น่าหยิบยกมาเป็นประเด็นว่า ทำ ‘Mascot Marketing’ อย่างไรให้ผู้คนจดจำแบรนด์ เพราะที่ผ่านมานั้นบางเคสก็ปัง แต่บางเคสก็แทบไม่ถูกพูดถึง
▪️‘Mascot Marketing’ คืออะไร?
คือ การทำการตลาดโดยใช้คาแรกเตอร์ต่าง ๆ เป็นสื่อกลางเพื่อสื่อสารแบรนด์ เช่น คน, สัตว์, ตัวการ์ตูน หรือสิ่งของที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา, สีสัน, การแต่งตัว ลักษณะนิสัย และน้ำเสียง (ที่บางแบรนด์ตั้งใจใส่เฉพาะ) ฯลฯ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น หรือทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำของกลุ่มเป้าหมายได้ ยกตัวอย่างมาสคอตที่คนไทยรู้จัก ได้แก่ #กล้วยกรุงศรี มาสคอตประจำธนาคารกรุงศรีฯ ที่ยืนหนึ่งเรื่องการเต้นแรง เมนแดนซ์ที่เต้นเหมือนว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้ จนผู้คนติดภาพจำว่าไม่มีใครเอเนอร์จีล้นเท่ากล้วยกรุงศรีฯ อีกแล้ว ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มเอง ก็มีมาสคอตอย่าง ‘พี่ก้อน’ จากบาร์บีคิว พลาซ่า และล่าสุด ‘วิงค์กี้’ มาสคอตดาวจากแบรนด์ชานม Dakasi Thailand ก็ได้ออกมาโลดแล่นบน TikTok รวมถึงในกลุ่มธุรกิจพลังงานอย่างปตท. (PTT) ก็ยังมี #ก๊อดจิ ในตำนาน ตัวแทนแห่ง ‘ทูตพลังงาน’ ที่อยู่คู่แบรนด์มาอย่างยาวนาน ซึ่งกลยุทธ์เด็ดของปตท. คือ การนำน้องก๊อดจิไปอยู่ในทุก ๆ ที่ และทุก ๆ สื่อ จนสร้างภาพจำให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นตามโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ เช่น อีเวนต์วันเด็ก, ทำของพรีเมียม หรือเป็นคาแรกเตอร์ที่ใช้โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ฯลฯ
▪️ นอกจาก ‘จังหวะที่ใช่’ ทำ ‘Mascot Marketing’ อย่างไรให้ปัง!?
1. มีตัวแทน แบบไม่ลืมตัวตน
มองหากลุ่ม Target ของสินค้าหรือบริการของแบรนด์เราจริง ๆ ว่า ‘เป็นใคร’ เพศ อายุเท่าไหร่ ความสนใจเป็นอย่างไร หรือชื่นชอบคอนเทนต์ประเภทไหน และเล่นแพล็ตฟอร์มใดเป็นพิเศษ จากนั้นหากลยุทธ์และวิธีการสื่อสารให้เข้าไปถึงลูกค้าของเรา ที่สำคัญต้องไม่ลืมจุดแข็ง หรือ ‘ความเป็นตัวของตัวเอง’ (Brand Identity)
2. ดีไซน์คาแรกเตอร์ดี มีสิทธิ์ปัง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการออกแบบคาแรกเตอร์ มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการมีส่วนร่วมของผู้คน มาสคอตที่ใส่ความเป็นตัวของตัวเอง เพิ่มลูกเล่นสดใส สนุกสนาน จะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีไปด้วย
3. ใส่ความเป็นเรื่องเป็นราว
นอกจากจุดขายของสินค้าที่น่าสนใจแล้ว การสร้างสตอรี่หรือเรื่องราวให้กับคาแรกเตอร์ที่ดีไซน์ขึ้นมา ก็ช่วยสร้างการรับรู้ให้คนจดจำได้มากขึ้น เช่น มีนิสัยและชีวิตประจำวันละม้ายคล้ายคนปกติ ซึ่งบางทีหลังมาสคอตเป็นที่จำจดแล้ว แบรนด์แทบไม่ต้องสร้างสตอรี่ขึ้นเองเลย ดูตัวอย่างได้จากหมีเนย เป็นต้น
4. เลือกใช้สื่อให้เหมาะสม
พอมาสคอตไปปรากฏตัวตามที่สาธารณะในรูปแบบออฟไลน์ก็ราวกับว่า ‘ดูมีชีวิตจริง’ ขึ้นมา แต่ช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายก็มีส่วนช่วยสำคัญ ที่เป็นดั่งไม้ต่อส่งให้มาสคอตของแบรนด์ไปได้ไกลมากขึ้น ขยายฐานแฟนคลับ-ลูกค้าขนาดใหญ่ และต่อยอดได้มากกว่าการทำเป็นมาสคอตที่แค่เดินไปเดินมา เช่น ส่งเสริมให้กลายเป็น Brand Ambassador แทนการใช้บุคคลจริง ๆ, สร้างสรรค์เป็นของพรีเมียมที่มีแพ็กเกจจำหน่ายควบคู่กับสินค้า, คอลแลบส์ (Brand Collaboration) ร่วมกับแบรนด์หรือสินค้าประเภทอื่น หรือแม้กระทั่งการขยับขยายสาขาโดยไม่ละทิ้งกิมมิคคาแรกเตอร์มาสคอตเดิมของเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://shorturl.at/KWutB / https://shorturl.at/e2cwF / https://shorturl.at/VimrW