แม้ไม่มีเลือดเนื้อ ไร้แม้กระทั่งลมหายใจ แต่อินฟลูเอนเซอร์ยุคใหม่บนโลกเสมือนเหล่านี้กลับสามารถทำรายได้ให้กับหลายแบรนด์ดัง และกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์แนวใหม่ที่จะเข้ามาเขย่าวงการธุรกิจทั่วโลก มาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าพวกเขาเป็นใคร และจะมีอิทธิพลขนาดไหนกันแน่?
Virtual Influencer คืออินฟลูเอนเซอร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากโปรแกรมต่าง ๆ ที่ถึงแม้จะไม่มีเลือดเนื้อหรือตัวตนอยู่จริง แต่บนโลกเสมือนจริงนั้นพวกเขาจะเป็นใครก็ได้ ทำอาชีพอะไรก็ได้ จะมีพฤติกรรมหรือนิสัยแบบใดก็สุดแท้แต่บริษัทหรือแบรนด์ผู้สร้างจะออกแบบ
จุดแข็งที่ได้เปรียบมนุษย์คือพวกเขาไม่ป่วย ไม่แก่ ไม่ตาย และแบรนด์ยังสามารถควบคุมอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มนี้ได้ 100% ทั้งรูปลักษณ์หน้าตา ลักษณะนิสัย การพูดจา แม้กระทั่งทัศนคติหรือความคิด ไม่มีอะไรที่จะหลุดออกไปจากกรอบที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
แม้กระทั่งการ ‘ออกงาน’ อีเวนต์ต่าง ๆ พวกเขาก็สามารถปรากฏตัวในหลาย ๆ สถานที่พร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน จะรันกี่งานก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นในระยะหลัง ๆ จึงได้มีการสร้างอินฟลูเอนเซอร์โลกเสมือนออกมามากมาย ทั้งจากบริษัทสตาร์อัพเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปจนถึงกระทั่งบางแบรนด์เองที่เลือกลงทุนระยะยาวด้วยการพัฒนาอินฟลูเอนเซอร์โลกเสมือนประจำแบรนด์ไปเสียเลย
นอกจากนี้ช่องทางหลักในการมีตัวตนของพวกเขาที่หนีไม่พ้น ‘โซเชียลมีเดีย’ ยังช่วยส่งเสริมให้พวกเข้าก้าวเข้าสู่ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย Gen ใหม่ของการตลาด นั่นก็คือกลุ่ม Gen Z ที่มักจะสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีและชอบติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะการติดตาม ‘คนดัง’ เพื่อดูคอนเทนต์ใหม่ ๆ
ซึ่งจากสถิติพบว่า Virtaul Influencers บางคน มียอดติดตามหลักล้านภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ถือว่าสถิติใกล้เคียงกับบียอนเซ่เเลยทีเดียว และอินฟลูเอนเซอร์โลกเสมือนบางคนทำยอดฟอลโลเวอร์เกินล้านฟอลโลเวอร์ไปแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะไร้ตัวตน ก็แต่เป็นทางเลือกใหม่ที่สร้างเม็ดเงินให้ธุรกิจได้ไม่แพ้อินฟลูเอนเซอร์จริง ๆ เลยทีเดียว
วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมารู้จักกับเหล่า Virtaul Influencers คนดัง พวกเขาหรือเธอจะเป็นใคร เคยร่วมงานกับแบรนด์ใดมาก่อนบ้าง ไปติดตามกัน
?คนที่ 1 Lil Miquela www.instagram.com/lilmiquela
มิเคลา ซูซา สาวน้อยลูกครึ่งสเปนและบราซิล ผลงานจากบริษัทผู้สร้าง ‘Brud’ ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพใน Los Angeles เธอเป็นนักร้องสาวเจ้าของเพลงดังอย่าง Speak Up, Automatic, Not Mine, Hard Feeling และยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ออกมาเคลื่อนไหวทั้งเรื่อง Black live matter movement, The LGBTQ+ community และสิทธิของผู้อพยพอีกด้วย
นอกจากนี้เธอยังเคยร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung, Calvin Klein, Prada และยังเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของนิตยสาร Time เมื่อปี 2018 ร่วมกันกับโดนัลด์ ทรัมป์, คานเย เวสต์ และศิลปินจากเกาหลีใต้ BTS
? คนที่ 2 Shudu Gram www.instagram.com/shudu.gram
ชูดู นางแบบสาวจากไอเดียการสร้างสรรค์ของ Cameron-James Wilson เธอได้รับการขนานนามว่าเป็น Digital Supermodel คนแรกของโลก ซึ่งเธอเป็นนางแบบที่ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์จากรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น แทบแยกไม่ออกว่าเป็นคนจริงหรือตัวละครที่สร้างขึ้น ความโดดเด่นของเธอจึงเข้าตาหลายแบรนด์ จนได้จับมือเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ Fenty Beauty และ Balmain รวมถึงเป็นโมเดลรับเชิญของ Samsung และถ่ายภาพลงในนิตยสาร Vogue Korea มาแล้ว
? คนที่ 3 Imma https://www.instagram.com/imma.gram
IMMA นางแบบสาวสุดน่ารักที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวเป็นผมบ๊อบสั้นสีชมพู เธอได้รับการออกแบบมาจากมุมมองของคนต่างชาติที่มีต่อคนญี่ปุ่น ดังนั้นเธอจึงเป็นเสมือนตัวแทนเผยแพร่วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญคือเรื่องของแฟชั่นที่จัดจ้านไม่แพ้ใคร เธอมักจะปรากฏตัวพร้อมเสื้อผ้าสุดชิคในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ความแปลกใหม่ที่น่าสนใจนี้ทำให้ Japan Economics Entertainment เคยมอบตำแหน่ง “New 100 Talent to Watch” ให้ด้วย ซึ่งถ้าดูจากแบรนด์ที่อิมมาเคยร่วมงานด้วยทั้ง Burberry, TikTok, Adidas Tokyo และ IKEA Japan ก็ถือว่าเธอกำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองจริง ๆ
? คนที่ 4 Noonoouri — www.instagram.com/noonoouri
NOONOOURI นางแบบสาวตาโตที่อาศัยอยู่ใจกลางเมืองแห่งแฟชั่นอย่างปารีส ‘Noonoouri’ เป็นผลงานจากผู้สร้าง Joerg Zuber ที่ต้องการแสดงถึงหญิงสาวผู้หลงใหลในแฟชั่น Noonoouri ให้คำจำกัดความตัวเองว่าเธอเป็นตัวการ์ตูนดิจิทัล, นักเคลื่อนไหวกิจกรรม และมังสวิรัติ และเธอยังได้รับการขนานนามว่า ‘digital haute couture’ เพราะเธอเป็นลูกรักของบรรดาแบรนด์แฟชั่นชั้นนำทั้งหลายเช่น Gucci, Dior, Yves-Saint-Laurent, Lacoste, Versace, และ Bulgari
? คนที่ 5 Knoxfrost — https://www.instagram.com/KnoxFrost/
ปิดท้ายด้วยอินฟลูเอนเซอร์เพศชาย ‘Knox Frost’ เขาเป็นอินฟลูเอนเซอร์หนุ่ม อายุ 21 ปี อาศัยอยู่ที่ Atlanta, Georgia ซึ่งล่าสุดเขาได้ร่วมงานกับองค์กรใหญ่ระดับโลกอย่าง World Health Organization ในการเป็นกระบอกเสียงให้แคมเปญระดมทุน COVID-19 Solidarity Response Fund และความดังของเขายังได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ ทั้ง Forbes, Business Insider, Buzzfeed, Mashable, CNN และสื่ออื่น ๆ แถมยอดฟอลโลวเวอร์ที่มีอยู่ก็ดูท่าว่าหนุ่มคนนี้อาจจะได้มีผลงานร่วมกับอีกหลากหลายแบรนด์ดังก็เป็นได้