Skip to content
image

ทำไมแบรนด์ถึงยังทำการตลาดผ่าน SMS ในยุคนี้?

เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมแบรนด์ต้องทำการตลาดผ่าน SMS ทั้งที่ยุคนี้เราก็ไม่ได้สื่อสารกันด้วย SMS เหมือนสมัยก่อนแล้ว? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ

มาเริ่มรู้จัก SMS Marketing กันก่อน
SMS (Short Message Service) เป็นการทำการตลาดแบบออฟไลน์อย่างหนึ่งผ่านโทรศัพท์มือถือในรูปแบบข้อความสั้น ที่จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการและโปรโมชันของแบรนด์ ไปถึงกลุ่มเป้าหมายครับ

SMS สามารถเลือกส่งได้หลายภาษา และสามารถส่งเป็น MMS ภาพหรือวิดีโอ ได้ตามต้องการ เช่น
SMS Location-Based-Service: เป็นการส่งข้อความให้คนที่เข้ามาในพื้นที่ที่กำหนด
SMS API: เป็นการส่งข้อความบอกความเคลื่อนไหวของระบบปฏิบัติการ อย่างการแจ้งสถานะเงินเข้าเงินออกในบัญชีของธนาคาร
บริการ USSD: เป็นการส่งข้อความสั้น มีความปลอดภัยมากกว่า SMS ปกติเพราะข้อความที่ได้รับผ่านทาง USSD จะไม่ถูกเก็บในกล่องข้อความและไม่สามารถส่งต่อให้ผู้อื่นได้แบบการขอรหัสผ่าน OPT หรือการลงทะเบียนต่าง ๆ เป็นต้น

เหตุผลที่หลายแบรนด์ยังใช้ SMS Marketing ในยุคนี้
1. เข้าถึงลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก
SMS สามารถทำให้สินค้าของแบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างง่ายดายเป็นวงกว้างผ่านการส่งเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าออนไลน์หรือออฟไลน์ แบรนด์ก็สามารถนำเสนอสินค้า บริการและโปรโมชันให้กับลูกค้าได้เสมอ

2. สามารถทำการตลาดไปกับช่องทางอื่น ๆ ได้
SMS Marketing สามารถทำงานร่วมกับการตลาดแบบทั่วไปและการตลาดบนโลกออนไลน์หรือบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อสร้าง Awareness ให้กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้ด้วยครับ เช่นการใช้เบอร์มือถือเป็น ID เพื่อยืนยันตัวตนในการลงทะเบียนใช้บริการอื่น ๆ อย่างสมัครสมาชิก การเข้าร่วมแคมเปญ การแลกพอยท์ จากนั้นเก็บข้อมูลตรงนี้ไปทำ SMS Marketing ต่อไปครับ

3. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
อีกหนึ่งจุดแข็งสำหรับ SMS Marketingการ ที่ทำให้แบรนด์เลือกใช้ก็คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด คือการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของลูกค้าโดยตรง ด้วยข้อความที่มีเนื้อหาชัดเจน กระชับตรงประเด็นที่แบรนด์อยากสื่อสาร ทำให้สามารถเจาะลงไปกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ
SMS Marketing ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้ ด้วยการส่งข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับโปรโมชัน หรือส่วนลดเพื่อส่งเสริมการขายให้กับแคมเปญของแบรนด์

5. รักษาฐานลูกค้า
SMS Marketing ยังสามารถเป็นตัวช่วยแบรนด์รักษาฐานของลูกค้าเดิม หรือสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าใหม่ ด้วยการส่ง SMS (Personalized Message) แบบเจาะจง เพื่อเสนอสิทธิพิเศษให้แต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ และช่วยสร้าง Brand Loyalty ต่อลูกค้าของแบรนด์

6. วัดผลได้รวดเร็ว
SMS สามารถวัดผลได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์จะสามารถตรวจสอบจำนวนข้อความที่ได้ส่งไป จากจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับข้อความ รวมถึงจำนวนข้อความที่ถูกเปิดอ่านและไม่ถูกเปิดอ่าน โดยแบรนด์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อนำมาทำการตลาดรูปแบบอื่นได้อีกครับ

7. ใช้ทุนน้อย
การทำ SMS Marketing นั้นเป็นการทำการตลาดที่ใช้ทุนน้อยและคุ้มค่าด้วยการส่งข้อความไปถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้อย่างแม่นยำ จากการคัดกรองเบอร์โทรศัพท์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ ทำให้สารที่แบรนด์อยากสื่อสารสามารถไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ช่วยประหยัดต้นทุนและประหยัดเวลา

นอกจากนี้ SMS Marketing ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างการนำ Big data เข้ามาทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และสื่อสารได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์การตลาดของแบรนด์ได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หลาย ๆ แบรนด์ยังคงเลือกใช้ SMS Marketing ให้การทำการตลาดอยู่ครับ

หากใครอ่านแล้วสนใจอยากลองนำ SMS Marketing ไปใช้กับแบรนด์ตัวเองต้องระวังไม่ให้ข้อความที่เราส่งไปดูเหมือน Spam ไม่ควรส่งถี่จนเกินไป เพราะอาจสร้างความรำคาญ จนลูกค้ากดยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารทาง SMS ของแบรนด์เลยก็ได้ เราเลยอยากแนะนำว่าควรเลือกส่งข้อความอย่างพอดีไม่ส่งถี่จนเกินไป และเลือกส่งเวลาที่ลูกค้าน่าจะมีเวลากดอ่าน หรือเป็นช่วงเวลาที่เขาน่าจะกำลังจับจ่ายใช้สอย อย่างส่งข้อความโปรโมชั่นไปในช่วงสิ้นเดือน หรือช่วง Flash Sale

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.dailynews.co.th/news/1061910/
https://business.dtac.co.th/…/why-sms-marketing-is-the…/

ชาว Ads Optimizers รู้ยัง? Meta Exclude Target ใช้ไม่ได้แล้วนะ
อัปเดตตำแหน่งโฆษณา LINE Ads 2024
Meta ประกาศลบ Filter / AR Effect จากครีเอเตอร์ทั้งหมดในปีหน้า